หมวดที่ ๑
ความทั่วไป
ข้อ ๑ สมาคมนี้มีชื่อว่าสมาคมโทรทัศน์ดิจิตอล (ประเทศไทย) ย่อว่า "สทท" เรียกเป็นภาษาอังกฤษ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าAssociation of Digital Television Broadcasting (Thailand) ย่อว่า "ADTEB"
ข้อ ๒ เครื่องหมายของสมาคมมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ตรงกลางของเครื่องหมายมีอักษรย่อภาษาอังกฤษของสมาคมว่า ADTEB ภายใต้ตัวอักษรมีลักษณะเป็นแถบพื้นสี RGB ปรากฎอยู่ในตัวอักษรดังกล่าว ส่วนด้านล่างของตัวอักษรดังกล่าวมีชื่อสมาคมภาษาอังกฤษสีคำว่า ASSOCIATION OF DIGITAL TELEVITION BROADCASTING (THAILAND)
ข้อ ๓ สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๖๓/๑ ถนนพระราม ๙ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ๑o๓๑o
ข้อ ๔ วัตถุปรสงค์ของสมาคมเพื่อ
๔.๑ แนะนำ ให้ความช่วยเหลือ คุ้มครองประโยชน์ของประชาชนและองค์กรสื่ออื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์และการรู้เท่าทันสื่อ
๔.๒ ส่งเสริม แนะนำ ให้ความช่วยเหลือการพัฒนากิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลให้มีมาตรฐานยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
๔.๓ ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลสมาชิกให้มีความเหมาะสมในกรอบของจรรยาบรรณ จริยธรรมแห่งวิชาชีพ กฏ ระเบียบ ข้อบังคับสมาคม และกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพิจารณาลงโทษสมาชิกที่กระทำผิดกรอบของจรรยาบรรณ จริยธรรม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของสมาคมและกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
๔.๔ พิจารณาทบทวน ปรับปรุง ข้อบังคับให้มีความทันสมัย เพื่อสามารถตอบสนองต่อการพิจารณาเรื่องร้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
๔.๕ เป็นผู้ประสานงาน หรือผู้แทนของสมาชิกในการให้คำปรึกษา เจรจาออกกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์กับหน่วยงานราชการ หน่วยงาน หรือสถาบันอื่นทั้งภายในและภายนอกประเทศ
๔.๖ ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศล และองค์กรสาธาณประโยชน์
๔.๗ ส่งเสริม สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือ แก่สมาชิกที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ หรือการกระทำไปโดยชอบ ที่เป็นประโยชน์ต่อสมาคมหรือประโยชน์สาธารณะ
๔.๘ เป็นตัวแทน หรือศูนย์กลางของสมาชิกในการดำเนินการเรื่องต่างๆ ทีเกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ตามวัตถุประสงค์ของสมาคม
๔.๙ รับการสนับสนุนเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคม จากบุคคล นิติบุคคลหรืองอค์กรต่างๆ
๔.๑o. พัฒนามาตรฐานทางจริยธรรมของสมาคมให้มีความครบถ้วน ครอบคลุมทุกด้านและสอดคล้องกับพัฒนาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
๔.๑๑ ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงรักษาไว้ซึ่งเกียรติของวิชาชีพและของสมาชิก
๔.๑๒ ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทัศน์และการรู้เท่าทันสื่อ
๔.๑๓ ศึกษา วิจัย สำรวจความนิยมของรายการโทรทัศน์และช่องรายการโทรทัศน์ เพื่อส่งเสริมและะสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรทัศน์ รวมทั้งเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หมวดที่ ๒
สมาชิก
ข้อ ๕ สมาชิกของสมาคมมี ๓ ประเภท คือ
๕.๑ สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐให้เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดินประเภทบริการธุรกิจและประเภทบริการสาธารณะระดับชาติ
๕.๒ สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลหรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการด้านโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน
๕.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติ หรือทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้มีอุปการคุณแก่สมาคมซึ่งคณะกรรมการลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม
ข้อ ๖ สมาชิกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
๖.๑ สมาชิกสามัญ
๖.๑.๑ เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฏหมายไทย
๖.๑.๒ ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐให้เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดินประเภทบริการทางธุรกิจ และประเภทบริการสาธารณะระดับชาติ
๖.๑.๓ นิติบุคคลหรือผู้แทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
๖.๑.๓.๑ ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลว่ากระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กฏหมายลิขสิทธิ์ และกฎหมายอาญา เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น่อยกว่าสามปีหรือเป็นความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
๖.๑.๓.๒ ไม่เคยพิจารณาให้ออก ไล่ออก ขับให้พ้นออกจากการเป็นสมาชิก หรือมี พฤติกรรมลาออกจากองค์กรที่ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรม
๖.๒ สมาชิกวิสามัญ
๖.๒.๑ เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
๖.๒.๒ เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
๖.๒.๓ ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ
๖.๒.๔ เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฏหมายไทย
๖.๒.๕ บุคคล นิติบุคคล หรือผู้แทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิก ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
๖.๒.๕.๑ ไม่เคยต้องพิพากษาถึงที่สุดของศาลว่ากระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กฏหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ และกฏหมายอาญา เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี หรือ เป็นความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
๖.๒.๕.๒ ไม่เคยถูกพิจารณาให้ออก ไล่ออก ขับให้พ้นออกจากการ เป็นสมาชิก หรือมีพฤติกรรมลาออกองค์กรที่ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เมื่อถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดฎหมายทางจริยธรรม
๖.๒.๖ เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการด้านโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ภาคพื้นดิน หรือทำงานอยู่ในองค์กรที่ประกอบกิจการด้านโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน และ/หรือ มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน เช่น ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนกับการประกอบกิจารโทรทัศน์ เป็นต้น
ข้อ ๗ ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม
๗.๑ สมาชิกสามัญจะต้องเสียงค่าลงทะเบียนคร้้งแรก ๑oo,ooo บาท ต่อช่องรายการโทรทัศน์ ส่วนค่าบำรุงรายปีให้เป็น อำนาจของคณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้พิจารณากำหนด
๗.๒ สมาชิกวิสามัญจะต้องเสียงค่าลงทะเบียนครั้งแรก ๕o,ooo บาท ส่วนค่าบำรุงรายปีให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ของสมาคมเป็นผู้พิจารณากำหนด
๗.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องเสียค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม ทั้งนี้ การกำหนด เพิ่ม ลด หรือ ยกเว้น ค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงรายปี ตามข้อ ๗.๑ และ ๗.๒ ให็เป็นอำนาจของคณะกรรมการของสมาคมในการพิจารณากำหนดเป็นกรณีๆไป
ข้อ ๘ การสมัครเป็นสมาชิกของสมาคม
๘.๑ สมาชิกสามัญ ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกสามัญของสมาคม ยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขานุการโดย สมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย 1 คน และให้เลขานุการติดประกาศรายชื่อผู้สมัครไว้ ณ สำนักงานขอสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้สมาชิกสามัญของสมาคมคัดค้านการสมัครนั้น เมื่อครบกำหนดประกาศแล้วให้เลขานุการนำใบสมัครและหนังสือคัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติว่าจะรับหรือไม่รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมและเมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัครแล้วผลเป็นประการใด ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบโดยเร็ว
๘.๒ สมาชิกวิสามัญ ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกวิสามัญของสมาคม ยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขานุการ โดยสมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย 2คน และให้เลขานุการติดประกาศรายชื่อผู้สมัครไว้ ณ สำนักงานขอสมาคม เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้สมาชิกสามัญของสมาคมคัดค้านการสมัครนั้น เมื่อครบกำหนดประกาศแล้วให้เลขานุการ นำใบสมัครและหนังสือคัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติว่าจะรับหรือไม่รับ เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมและเมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัครแล้วผลเป็นประการใด ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบโดยเร็ว
ฃ้อ ๙ ถ้าคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติิให้ผู้รับสมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ผู้สมัครนั้นชำระเงิค่าลงทะเบียนและบำรงสมาคมให้ เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเลขานุการและสมาชิกภาพของผู้สมัคร ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัคร ได้ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าผู้สมัครไม่ชำระค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงภายในกำหนด ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นการยกเลิก
ข้อ ๑o สมาชิกภาพขอสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมได้มาถึงสมาคม
ข้อ ๑๑ สมาชิกภาพของ สมาคมให้สิ้นสุดลงด้วยวเหตุผลดังต่อไปนี้
๑๑.๑ ตายหรือสิ้นสภาพความเป็นนิตบุคคล
๑๑.๒ ลาออก โดยยื่นหนึงสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี่สินที่ติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย
๑๑.๓ ขาดคุณสมบัติของการเป็นสมาชิก
๑๑.๔ ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือกรรมการได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน
ข้อ ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
๑๒.๑ มีสิทธิ์เข้าใช้สถานที่ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน
๑๒.๒ มีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อีคณะกรรมการ
๑๒.๓ มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการต่างๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น
๑๒.๔ มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม
๑๒.๕ สมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสมาคม และมีสิทธิ ออกเสียงลงมติตางๆ ในที่ประชุมได้คนละ 1 คะแนนเสียง
๑๒.๖ มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สิน่ของสมาคม
๑๒.๗ มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด หนังสือร้องขอต่อคณะ กรรมการให้ประชุมใหญ่วิสามัญได้
๑๒.๘ มีหน้าที่จะต้องปฎิบัติตามระเบียบปฎิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด
๑๒.๙ มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม
๑๒.๑o มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่างๆ ของสมาคม
๑๒.๑๑ มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดขึ้น
๑๒.๑๒ มีหน้าที่เผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
๑๒.๑๓ ต้องมีส่วนร่วมหรือให้ความยินยอมที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่สมาคมกำหนด
หมวดที่ ๓
การดำเนินกิจการสมาคม
ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย ๗ คน อย่างมากไม่เกิน ๒๔ คน คณะกรรมการนี้ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เลือกกันเองเป็นนายกสมาคม ๑ คน และอุปนายกอย่างน้อย ๒ คน สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ให้นายกเป็นผู้แต่งตั้งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสมาคม ตามที่ได้กำหนดไว้ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคมมีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้
๑๓.๑ นายกสมาคมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม คณะกรรมการเป็นผู้แทนสมาคมในติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม คณะกรรมการ และการประชุมใหญ่ของสมาคม
๑๓.๒ อุปนายกทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารจัดการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมายและ ทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายก สมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน
๑๓.๓ เลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมด เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม
๑๓.๔ เหรัญญิกมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
๑๓.๕ นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคมประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก
๑๓.๖ ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
๑๓.๗ กรรมการตำแหน่งอื่นๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้นโดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนด ตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง คณะกรรมการชุดแรก ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมเป็นผู้เลือกตั้งประกอบด้วยนายกสมาคม และกรรมการอื่นๆ ตามจำนวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาคม
ข้อ ๑๔ คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ ๒ ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการและเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ
ข้อ ๑๕ ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
ข้อ ๑๖ กรรมการต้องเป็นบุคคลธรรมดาและ
๑๖.๑ เป็นผู้แทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกสามัญ
๑๖.๒ เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
๑๖.๓ ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
๑๖.๓.๑ ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลว่ากระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ และกฎหมายอาญา เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี หรือเป็นความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
๑๖.๓.๒ ไม่เคยถูกพิจารณาให้ออก ไล่ออก ขับให้พ้นออกจากการเป็นสมาชิก หรือมีพฤติกรรมลาออกจากองค์กรที่ประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เมื่อถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรม
ข้อ ๑๗ กรรมการอาจพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ
๑๗.๑ ตาย
๑๗.๒ นิติบุคคลที่ตนเป็นตัวแทนสิ้นสภาพความเป็นนิติบุคคล หรือสิ้นสภาพความเป็นสมาชิก
๑๗.๓ ออกจากนิติบุคคลที่เป็นสมาชิก
๑๗.๔ นิติบุคคลขอยกเลิกหรือเปลี่ยนตัวแทน
๑๗.๕ ขาดจากสมาชิกภาพ
๑๗.๖ ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้พ้นจากตำแหน่ง
กรณีที่กรรมการที่เป็นตัวแทนของนิติบุคคลเสียชีวิตลง หรือออกจากนิติบุคคล หรือนิติบุคคลขอยกเลิก หรือเปลี่ยนตัวแทน ให้นิติบุคคลนั้นแจ้งรายชื่อตัวแทนคนใหม่เข้ามาเป็นกรรมการให้สมาคมทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่กรรมการผู้นั้นเสียชีวิตลง หรือออกจากนิติบุคคล หรือนิติบุคคลขอยกเลิก หรือเปลี่ยนตัวแทน
ข้อ ๑๘ กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ
ข้อ ๑๙ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
๑๙.๑ มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
๑๙.๒ มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม
๑๙.๓ มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการ จะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
๑๙.๔ มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
๑๙.๕ มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
๑๙.๖ มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
๑๙.๗ มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญ และประชุมใหญ่วิสามัญตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
๑๙.๘ มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ
๑๙.๙ จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ
๑๙.๑๐ หน้าที่อื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
ข้อ ๒๐ คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อย ๓ เดือน ต่อครั้ง ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม
ข้อ ๒๑ การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุมมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับไม่ได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ โดยกรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน แต่ถ้าเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมออกเสียงเพิ่มได้อีก ๑ สียง เป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ ๒๒ ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
หมวดที่ ๔
การประชุมใหญ่
ข้อ ๒๓ การประชุมใหญ่ของสมาคม มี ๒ ชนิด คือ
๒๓.๑ การประชุมใหญ่สามัญประจำปี
๒๓.๒ การประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ ๒๔ คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๆ ละ ๑ ครั้ง ภายในเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ข้อ ๒๕ การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจจะมีขึ้นได้ก็โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้น หรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิก สามัญไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมดทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดให้มีขึ้น
ข้อ ๒๖ การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบ และการแจ้งจะต้องเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๗ วัน และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๗ วัน ก่อนถึงกำหนดการประชุมใหญ่
ข้อ ๒๗ การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้
๒๗.๑ แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี
๒๗.๒ แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ
๒๗.๓ เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อครบกำหนดวาระ
๒๗.๔ เลือกตั้งผู้สอบบัญชี
๒๗.๕ เรื่องอื่น ๆ ถ้ามี
ข้อ ๒๘ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือการประชุมใหญ่วิสามัญจะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุม
ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนดเวลาประชุมยังมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน ๑๔ วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก สำหรับการประชุมในครั้งหลังนี้ ถ้ามีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่าใด ก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม ยกเว้นถ้าเป็นการประชุมใหญ่วิสามัญที่เกิดขึ้นจากการร้องขอของสมาชิก ก็ไม่ต้องจัดประชุมใหญ่โดยให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก
ทั้งนี้ นายกสมาคม เลขานุการสมาคม หรือ คณะกรรมการของสมาคม (แล้วแต่กรณี) อาจกำหนดให้จัดการประชุมใหญ่ของสมาคมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ในกรณีที่มีการประชุมใหญ่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด
ในการส่งหนังสือเชิญประชุมและเอกสารประกอบการประชุมสามารถดำเนินการตามวิธีการและระยะเวลาที่กฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการประชุมนั้นได้กำหนดไว้ หรือ จะส่งโดยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แทนก็ได้
ข้อ ๒๙ การลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ ถ้าข้อบังคับไม่ได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ โดยสมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติมีคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นได้อีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ ๓๐ ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคม และอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุม หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
หมวดที่ ๕
การเงินและทรัพย์สิน
ข้อ ๓๑ การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เงินสดของสมาคมถ้ามี ให้นำฝากไว้ในธนาคารพาณิชย์ ตามมติของคณะกรรมการ
ข้อ ๓๒ การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทำการแทนลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือเลขานุการ พร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้
ข้อ ๓๓ ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท (สองหมื่นบาทถ้วน)
ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและคณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายได้ครั้งละไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้าจำเป็นจะต้องจ่ายเกินกว่านี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นการจ่ายเงินเดือนให้พนักงานของสมาคมสามารถสั่งจ่ายได้ตามความเป็นจริง
ข้อ ๓๔ เหรัญญิก มีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้ จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้
ข้อ ๓๕ เหรัญญิกจะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุล ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การรับหรือจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทน ร่วมกับเหรัญญิกหรือผู้ทำการแทนพร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง
ข้อ ๓๖ ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต
ข้อ ๓๗ ผู้สอบบัญชี มีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการ และสามารถ
จะเชิญกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้
ข้อ ๓๘ คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ