กสทช.เตรียมเดินหน้า National Streaming Platform รับฟังความคิดเห็น 5 ก.ย.นี้

Last updated: 29 ก.ย. 2567  |  1090 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กสทช.เตรียมเดินหน้า National Streaming Platform รับฟังความคิดเห็น 5 ก.ย.นี้

ศ.ดร.พิรงรอง นามสูต กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า มิติของ Convergence ทั้ง Network Service  และDevice ทุกอย่างเข้าด้วยกันทั้งหมด ในมาเลเซียมีช่องทีวีอยู่สิบกว่าช่องมีวิทยุ4-5 ช่อง จึงให้ MYTV เป็นผู้ดูแลการเปลี่ยนผ่านทั้งหมดMYTV ได้รับสิทธิประกอบการ MYTV เป็นผู้ดูแลมัค จึงทำหน้าที่ดีลเอาผู้ประกอบการเอาเนื้อหาสตรีมหรือรวบรวมสัญญาณขึ้นมาไว้บน Portal ในแง่โฆษณาก็ไหลไปด้วยกันหมด ส่วนที่เรามีหลายมัคสุดท้ายคงต้องให้ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่ดูแล ไม่ใช่ทุกมัคลุกขึ้นมาทำทั้งหมด อาจจะมีคนเดียวเลือกคนที่มีความสามารถที่จะทำได้เป็นคนดูแล

เป็นที่มาของแนวคิดที่จะดูแลกิจการโทรทัศน์ให้ดำเนินต่อไปได้ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ออนไลน์ (Online Migration) ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วบางส่วน จะเห็นช่องโทรทัศน์กว่า 15 ช่อง มีการเปลี่ยนแปลงด้วยการมีช่องทางให้บริการวิดีโอออนดีมานด์ของตัวเอง หากมองในต่างประเทศการเปลี่ยนผ่านไปสู่ออนไลน์ไม่มีความลำบาก 

“ประเทศไทยมีมัคมากกว่ามัคเดียว กสทช. ร่วมกับสมาคมทิวีดิจิทัล สมาคมโฆษณา โดยมองเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่จะมีแพลตฟอร์มกลางเพราะถ้าข้อมูลของผู้ใช้อยู่รวมกันเป็นก้อนเดียว การวางแผนโฆษณาจะทำได้ง่ายขึ้น แนวคิดที่จะทำคือNational Streaming Platform ที่นำ นำ Live Streaming ไปสู่ผู้ชมผ่าน device ที่ผู้ชมใช้ด้ย App for mobile OTT, web (ไม่มี VoD)  แนวคิดนี้สามารถทำ Data Analytic เก็บข้อมูลการใช้งานได้ง่าย Ad-insertion (เพิ่ม ad เฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้ แต่ต้องควบคุมให้อยู่ภายในกำหนดเวลา ไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค)  การดำเนินการคงต้องขอความร่วมมือผู้ผลิตAndriod TV, LG, Samsung ในการติดตั้งแอปจากโรงงาน”


การดำเนินการอยู่ในระหว่างการพิจารณาโดยจะเอาเข้ามาพิจารณาในบอร์ดอีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย. ใช้งบประมาณกองทุนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation) หรือ USO มากดำเนิน เบื้องต้นได้บรรจุเรื่องนี้ไว้ในกรอบนโยบาย USO Boardcast ระบบที่พัฒนาขึ้นออกแบบให้ทุกคนสามารถเอาคอนเทนท์ขึ้นมาสตรีมบนแพลตฟอร์มได้ส่วนใครที่มีแพลตฟอร์มอยู่แล้วสามารถให้บริการต่อไป แนวคิดนี้ได้หารือกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลแล้วและเห็นด้วยที่จะมีแพลตฟอร์มกลางเพื่อการเปลี่ยนผ่านให้ทุกคนเข้าสู่ออนไลน์สตรีมมิ่งทุกราย 

ประโยชน์ที่จะได้จากเรื่องนี้ คือ ความชัดเจนของ Ad insertion/Ad manager และรูปแบบการดำเนินการ ,แก้ไขปัญหาลิขสิทธิ์ทำให้ผู้ผลิตคอนเทนท์ทำธุรกิจต่อไปได้ เมื่อใบอนุญาตดิจิทัลทีวีหมดอายุลง ทั้งนี้การกำหนดแนวทางที่ชัดเจนแนวทางดังกล่าวถือเป็นการกำกับดูแลและส่งเสริมกิจการ OTT ตามแนวทางสากล  การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ยังรองรับแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้งานโมบายมากกว่าทีวีมากขึ้น ทำให้การจัดสรรคลื่นในภาพรวมทั่วโลกมีการเอาคลื่นย่าน 600 Mhz ไปให้บริการในกิจการโทรคมนาคม เมื่อรวมกับแนวโน้มการใช้งาน 4K มากขึ้นจะทำให้คลื่นความถี่ในกิจการโทรทัศน์เหลือน้อยลง คลื่นจะลดลงจากเดิม 470-694 MhZ เป็น 470 -614 Mhz ถ้ามีการใช้ 4K มากขึ้นแนวโน้มการลดลงของช่องโทรทัศน์จะลดลง ความเป็นไปได้คือเหลือแต่ช่องที่เป็น HD กับ 4K 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.mcot.net

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้