AI ไม่ใช่กระเป๋าโดราเอมอนแต่ถ้ารู้วิธีใช้ จะกลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนเกม : "ปอ" ชวลิต อภิธรรมนิธิ

Last updated: 9 ก.ย. 2568  |  251 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AI ไม่ใช่กระเป๋าโดราเอมอนแต่ถ้ารู้วิธีใช้ จะกลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนเกม : "ปอ" ชวลิต อภิธรรมนิธิ

 

“AI ไม่ใช่กระเป๋าโดราเอมอน…แต่ถ้ารู้วิธีใช้ จะกลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนเกม”

 

ชวลิต อภิธรรมนิธิ

ผู้ผลิตรายการสารคดี “เยี่ยม-ย่าน” ไทยพีบีเอส ผู้ชำนาญการ AI ด้านสร้างภาพและเสียง

 


วิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้โลกหยุดนิ่ง กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของ คุณ ปอ ชวลิต อภิธรรมนิธิ โปรดิวเซอร์สายสารคดีผู้เคยร่วมงานกับค่ายใหญ่ทั้ง RS, เวิร์คพอยท์ และช่องวัน ที่ในเวลาว่างระหว่างการหยุดออกกอง หันมาสำรวจโลกเทคโนโลยีใหม่ ๆ จนได้พบกับ AI

“ตอนนั้นลองเล่นแอปฯ ที่ใช้ AI สร้างภาพจากข้อความ ตอนแรกยังไม่ซับซ้อน แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่งเกินคาด เลยเริ่มฝึกใช้ทุกวัน” ปอ เล่า พร้อมเสริมว่า แทนที่จะมอง AI เป็นสิ่งไกลตัว เขากลับเห็นเป็นเครื่องมือที่ต้องเรียนรู้ “AI ฉลาดขึ้นทุกวัน เราก็ต้องฉลาดขึ้นทุกวันเช่นกัน”
จากจุดเริ่มเล็ก ๆ ในการสร้างภาพนิ่งเพื่อซัพพอร์ตโปรดักชัน ในที่สุดก็ก้าวเข้าสู่การสร้างภาพเคลื่อนไหว และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์สำคัญอย่าง “เยี่ยม-ย่าน” รายการสารคดีจากไทยพีบีเอส ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือหลักในการถ่ายทอดภาพอดีตและอนาคตของชุมชนอย่างมีชีวิตชีวา

เมื่อสารคดีไม่ได้มีแค่ภาพจากกล้อง
หนึ่งในความท้าทายของการเล่าเรื่องเมือง คือ “ภาพอดีต” ที่มักเหลือเพียงคำบอกเล่าหรือภาพขาวดำไม่กี่ใบ ปอจึงลองนำข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลกับ AI สร้างภาพนิ่งและวิดีโอที่จำลองชุมชนเมื่อหลายสิบปีก่อน รวมถึงจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 40–50 ปีข้างหน้า
“เราคิดว่า ถ้าใช้ถูกทาง AI จะกลายเป็นเครื่องมือสนับสนุนที่ดีในการเล่าเรื่อง” เขากล่าว ก่อนเสริมว่า ในการนำเสนอรายการ เขาใช้ AI สร้างภาพ ดนตรี ไปจนถึงธีมประกอบที่สอดคล้องกับสาระของเนื้อหาอย่างลงตัว สิ่งที่ทำให้คณะกรรมการทึ่ง คือ ดนตรีประกอบที่ใช้ AI ในการสร้างสรรค์ทั้งหมด สำหรับสารคดี “เยี่ยม-ย่าน” ซึ่งมีทั้งหมด 13 ตอน
ปอ กล่าวว่า การผลิตสารคดียังต้องใช้ตากล้อง พิธีกร ไปถ่ายเก็บภาพตามสถานที่จริง แต่ AI เข้ามาช่วยสร้างคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ การผสมผสานเทคนิคในการทำงาน ต่อยอดไอเดีย แบบเหนือจินตนาการได้ สร้างภาพดึงดูดความน่าสนใจ ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น

AI ไม่ได้มาแย่งงานคน — แต่มาแย่งที่ของคนที่ไม่ยอมเรียนรู้
“ในสายโปรดักชันตอนนี้ เริ่มมีหลายคนหันมาใช้ AI เป็นเครื่องมือสนับสนุนงานมากขึ้น เช่น สถาปนิกใช้สร้างภาพจำลอง 3 มิติ โครงการต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้เร็วขึ้น หรือดีไซเนอร์ที่ประหยัดเวลาในขั้นตอนแรกไปได้ครึ่งหนึ่ง” ปอ ยืนยัน
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เตือนว่า “AI ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษแบบโดราเอมอน ไม่สามารถเสกได้ทั้งหมด” เพราะเบื้องหลังภาพสวย ๆ และวิดีโอเท่ ๆ ยังต้องอาศัยความเข้าใจเชิงเทคนิค เช่น การเขียน Prompt การควบคุมองค์ประกอบภาพ หรือแม้แต่ความเข้าใจเรื่องมุมกล้อง ศิลปะ และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ
สิ่งสำคัญ คือคนต้องมีความรู้ในวิชาชีพ และนำ AI ไปช่วยต่อยอดการทำงาน ยิ่งมีความรู้ด้านศิลปะ หรือความรู้ในวิชาชีพด้านใดด้านหนี่ง จะได้เปรียบคนที่ไม่รู้ เช่น รู้มุมกล้อง ลักษณะคาแรกเตอร์ของกล้อง ยิ่งถ้าเรามีความรู้ อยากได้สไตล์แบบไหน สามารถ Prompt บอกให้ AI ได้ ทำให้งานแตกต่าง ดังนั้น AI ไม่ได้มาแย่งงาน แต่มาช่วยต่อยอดการทำงานได้ในทุกสายงาน
“ถ้าเราเปิดใจเรียนรู้ ทดลองใช้ AI จะเห็นว่าสามารถต่อยอดได้จริง ช่วยลดเวลาการทำงาน ทำงานได้มากขึ้น และสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ปอ ระบุ


จากผู้ผลิตเนื้อหา สู่ผู้นำการเรียนรู้ AI ให้คนรุ่นใหม่
นอกจากสร้างสรรค์งานด้วย AI แล้ว ปอ ยังมีโอกาสถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับนักเรียน นักศึกษา และครูอาชีวะใน

โครงการต่าง ๆ โดยเน้นย้ำว่า “AI ไม่ได้มีไว้เพียงแค่สั่ง Prompt แล้วใช้งานได้เลย แต่มันต้องถูกควบคุมโดยคนที่มีทักษะ”
“ทุกวันนี้ AI สร้างงานได้ใกล้เคียงจริง แต่ยังไม่ 100% โดยเฉพาะเรื่องแววตาและมือมนุษย์ ที่ยังไม่สามารถหลอกกล้องได้หมด” เขากล่าวพร้อมแนะว่า ควรใช้ AI เป็นส่วนเสริม ไม่ใช่แทนทุกอย่าง เช่น ถ่ายภาพสถานที่จริง แล้วเติมความเหนือจริงด้วย AI หรือใช้ภาพจาก Midjourney, Runway, มาช่วยเล่าเรื่อง และ Suno มาช่วยทำดนตรี แต่ทุกชิ้นต้องมีจริยธรรมและอยู่ในกรอบลิขสิทธิ์
ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์ในการใช้ AI และเป็นวิทยากรในการสอนหลักสูตร AI ให้กับหลายสถาบัน ปอ ยืนยันว่า งานที่ผลิตขึ้นจาก AI ไม่ใช่การสั่ง Prompt ครั้งเดียวแล้วได้ชิ้นงานที่นำมาใช้ได้เลย ใช้ได้เพียง 10% เท่านั้น ต้องป้อน Prompt ลองผิดลองถูกหลายครั้ง และ Prompt คือการบรรยายโวหาร ยิ่งถ้ามีความรู้ในวิชาชีพของตัวเองมากเท่าไหร่ จะทำให้การสั่งงาน AI มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“คุณต้องตามเทคโนโลยีให้ทัน การเรียนรู้ AI ต้องพัฒนาตัวเองตลอด เพราะ AI พัฒนาตัวเองทุกวินาที การอยู่กับ AI คือได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา และมีผลต่อการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า” ปอ กล่าวย้ำ

AI กับอนาคตของวงการสื่อไทย: โอกาสหรือความเสี่ยง?
ปอ มองว่า AI เป็นโอกาสที่ดีโดยเฉพาะสำหรับผู้ผลิตรายย่อยที่มีงบประมาณจำกัด เพราะสามารถสร้างงานที่หลากหลายขึ้น และลดต้นทุนบางขั้นตอนลงถึง 30–40% แต่ก็เตือนว่าผู้ผลิตเนื้อหาต้องปรับตัว ทั้งในด้านเนื้อหา การเล่าเรื่อง และการลงทุนในเครื่องมือใหม่
“ถ้ามีความรู้ มีจินตนาการ และรู้วิธีใช้ AI คุณจะสร้างอะไรที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนได้” เขากล่าว พร้อมย้ำว่า การยอมรับเทคโนโลยีใหม่เป็นก้าวสำคัญในการอยู่รอด
ท้ายที่สุด ปอ เชื่อว่า ความรู้ในวิชาชีพคือหัวใจสำคัญ “ถ้าคุณมีพื้นฐานที่ดี เข้าใจในเรื่องมุมมองภาพ เข้าใจศิลปะ เข้าใจผู้ชม AI จะกลายเป็นเครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยยกระดับงานของคุณไปอีกขั้น”
สำหรับผู้ผลิตเนื้อหายุคใหม่ คำแนะนำของเขาคือ “อย่ากลัวที่จะเริ่ม ลองผิดลองถูก เรียนรู้เครื่องมือใหม่ ๆ เปิดใจให้กว้าง แล้วคุณจะรู้ว่า AI ไม่ได้มาแทนเรา แต่มาเติมเต็มสิ่งที่เราอาจทำไม่ได้ในอดีต ให้กลายเป็นจริงได้ในวันนี้”



4

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้