ไทยรัฐกับการปรับตัวในโลก AI เปลี่ยนผ่านอย่างรอบคอบ เพื่ออนาคตของสื่อคุณภาพ

Last updated: 27 Sep 2025  |  373 Views  | 

ไทยรัฐกับการปรับตัวในโลก AI  เปลี่ยนผ่านอย่างรอบคอบ เพื่ออนาคตของสื่อคุณภาพ

ไทยรัฐกับการปรับตัวในโลก AI เปลี่ยนผ่านอย่างรอบคอบ เพื่ออนาคตของสื่อคุณภาพ

เนติพิกัติ ตังคไพศาล ผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี ไทยรัฐ


ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญของทุกอุตสาหกรรม สื่อมวลชนเองก็ไม่อาจอยู่นิ่งเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรข่าวรายใหญ่ของประเทศอย่าง ไทยรัฐ ที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ภายใต้แรงกดดันของการแข่งขัน ความเร็วของข่าว และพฤติกรรมผู้เสพสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เนติพิกัติ ตังคไพศาล ผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีของไทยรัฐ เปิดเผยถึงแนวทางการปรับตัวขององค์กร ผ่านมุมมองที่เฉียบคมและรอบด้านต่อบทบาทของ AI ในอุตสาหกรรมข่าวสารของไทย

 
AI คือเครื่องมือ ไม่ใช่ผู้แทน

“AI เป็นเครื่องมือสำคัญ แต่ไม่ใช่ผู้ผลิตเนื้อหาที่แทนมนุษย์ได้ 100%” เนติพิกัติเริ่มต้นอย่างชัดเจน “สิ่งที่ไทยรัฐทำคือการนำ AI มาใช้ในฐานะ Corporate Tool ซึ่งไม่ใช่แค่เครื่องมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำงาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการผลิตข่าวทั้งระบบ”

AI ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน ทั้งการสืบค้นข้อมูล การแปลภาษา การถอดเสียง ตลอดจนช่วยตรวจคำผิดและจัดการคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพของนักข่าว ไม่ใช่แทนที่ ทุกข่าวที่ออกมา ยังถูกพิจารณา กลั่นกรอง และตัดสินใจโดยนักข่าว และกองบรรณาธิการ

“ทุกแพลตฟอร์มของไทยรัฐ ทั้งทีวี ออนไลน์ และสิ่งพิมพ์ ล้วนใช้ AI เพื่อเสริมความเร็ว ความแม่นยำ และควบคุมคุณภาพของเนื้อหา การบริหารจัดการลิขสิทธิ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ลดทอนจริยธรรมและการตัดสินใจของนักข่าว ซึ่งยังเป็นหัวใจของงานข่าวอยู่”

สำหรับอุตสาหกรรมสื่อ AI เข้ามาช่วยในการสร้างสรรค์เนื้อหา ภาพประกอบ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่สำหรับเรื่องลดต้นทุน ภาพยังไม่ชัดเท่าอุตสาหกรรมอื่น เช่น คอลเซ็นเตอร์ ที่ช่วยประหยัดได้มากกว่าทั้งลดขั้นตอน ลดระยะเวลา

 

เปลี่ยนโมเดลการทำงาน ผสานข้ามแพลตฟอร์ม

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของไทยรัฐคือการเชื่อมโยงการทำงานของทีวีและออนไลน์เข้าด้วยกันให้แนบแน่น ผ่านเครื่องมือที่ใช้ร่วมกัน เช่น ระบบจัดเก็บมีเดียอัจฉริยะ การใช้คลาวด์เพื่อให้ทุกหน่วยงานเข้าถึงเนื้อหาเดียวกันได้แบบเรียลไทม์

“หัวใจสำคัญ คือการ Cross-function ทีมจากทีวีและออนไลน์ต้องใช้ข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพสูงสุด” เขาอธิบาย พร้อมยอมรับว่า “แม้ยังมีความไม่เท่าทันกันในบางจุด แต่เรากำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง” เนติพิกัติระบุ

สำหรับไทยรัฐ ในฐานะผู้นำอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมสื่อ การเข้าถึงผู้คนเป็นหัวใจสำคัญ และการใช้ AI ช่วยให้การสืบค้น การเข้าถึงผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการใช้ AI เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกแพลตฟอร์ม เช่น การใช้เพื่อทำแคมเปญระหว่างทีวีและออนไลน์ รวมถึงการใช้เทคนิคใหม่ ๆ ของ AI เพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย ที่ยังต้องเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

ความท้าทายของวงการสื่อ ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี

เมื่อถามถึงผลกระทบของ AI ต่ออุตสาหกรรมสื่อโดยรวม เนติพิกัติระบุว่า ปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ แต่อยู่ที่ “การปรับตัวของคน”

“ในห้องข่าว ยังมีหลายเจเนอเรชัน หลายประสบการณ์ บางคนใช้ AI เป็นจนสามารถรีเสิร์ชงานได้ระหว่างประชุม บางคนยังไม่คุ้นชิน จุดนี้คือหัวใจที่เราต้องดูแล เพราะธรรมชาติของงานข่าว วิ่งทุกวัน หนักทุกวัน ถ้าไม่ผสาน AI เข้าสู่ชีวิตประจำวัน จะใช้ได้ไม่เต็มที่”

เนติพิกัติ กล่าวว่า ไทยรัฐ ในฐานะที่เป็นสถาบัน ต้องเป็นผู้นำในการนำเสนอเนื้อหาที่ครอบคลุม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวาง ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายได้ จริยธรรม ความถูกต้องในการสื่อสาร จำเป็นมาก ขณะเดียวกันในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ต้องอาศัยเทคโนโลยีมาช่วยเสริมประสิทธิภาพให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีคุณภาพไปพร้อม ๆ

เขายังกล่าวว่า เทคโนโลยีที่มีอยู่เบื้องหลังองค์กรนั้นก้าวหน้าไปมากแล้ว แต่ในส่วนของ “หน้าบ้าน” หรือการให้ผู้ชมสัมผัส AI อย่างผู้ประกาศข่าวเสมือน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหากดำเนินการไม่ดี อาจกระทบความเชื่อมั่นของผู้ชม

 

บริหาร “ต้นทุน” ด้วยเทคโนโลยี ไม่ใช่ลดคุณภาพ

ในยุคที่รายได้ของสื่อดั้งเดิมลดลง การบริหารต้นทุนเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญ เนติพิกัติย้ำว่า ไทยรัฐไม่เคยลดคุณภาพเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

“ต้องยอมรับว่าเนื้อหาคุณภาพมีต้นทุนสูง ทั้งค่าภาพลิขสิทธิ์ ทีมกลั่นกรอง เนื้อหาตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรามองว่า AI จะช่วยลดภาระในส่วนที่ ‘เทอะทะ’ เช่น กระบวนการเก็บ-ค้นหา-แปลงไฟล์ เพื่อให้ทีมทำข่าวได้โฟกัสในส่วนที่สำคัญจริง ๆ”

นอกจากนี้ ไทยรัฐได้พัฒนาแพลตฟอร์มภายใต้แบรนด์น้องใหม่ที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น ไทยรัฐ มันนี่ ไทยรัฐ สปอร์ต ถือเป็นแบรนด์เล็ก ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคอมมูนิตี้เฉพาะได้ดี และมีการใช้เครื่องมือ AI ร่วมกับแบรนด์ใหญ่ และมีโอกาสเติบโต ควบคู่ไปกับสื่อหลัก

 

AI ช่วยได้ แต่ต้อง “รู้เท่าทัน”

“เราต้องยอมรับว่าการใช้ AI บางครั้งเคยเจอข้อมูลในลักษณะ hallucination ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และเนื้อหาที่เวิ่นเว้อ ซึ่งนักข่าวและบรรณาธิการยังต้องเป็นด่านสุดท้ายในการกลั่นกรอง” เนติพิกัติกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“การใช้ภาพข่าวเก่า ภาพที่ไม่ตรงกับบริบท หรือการรายงานที่เร่งรีบ เป็นสิ่งที่ AI ช่วยคัดกรองได้ แต่ยังต้องมีคนตรวจสอบ เราจึงต้องสร้างระบบที่เน้น ‘ความถูกต้อง’ ไม่ใช่แค่ความเร็ว”

เมื่อพูดถึงกฎระเบียบการใช้ AI ในสื่อ เนติพิกัติยอมรับว่า “ประเทศไทยยังเดินช้าเกินไป” แม้จะมีความพยายามบางประการในระดับองค์กร แต่การควบคุม AI ระดับแพลตฟอร์มซึ่งส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ ยังไม่มีความชัดเจน

“เราต้องเร่งสร้างกลไกที่ทำให้การใช้ AI ในสื่ออยู่ภายใต้กรอบจริยธรรมที่ชัดเจน เพราะหากไม่มีมาตรฐาน องค์กรที่พยายามรักษาคุณภาพจะเสียเปรียบมาก”

สำหรับไทยรัฐในวันที่ AI เข้ามาเปลี่ยนโลกนั้น เขามองว่า “ไทยรัฐอาจเป็นสถาบัน แต่ไม่ใช่สถาบันที่ถูกลืม เราจะปรับตัวอย่างรอบคอบ ใช้ AI เพื่อเสริมพลังของทีม ไม่ใช่แทนที่ใคร เป้าหมายคือการสร้างเนื้อหาที่แม่นยำ เที่ยงตรง และยังคงเป็นที่พึ่งของสังคมไทยในวันที่ข้อมูลล้นโลก” เนติพิกัติทิ้งท้ายด้วยแนวคิดที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรข่าวเบอร์ 1 ของประเทศ

Powered by MakeWebEasy.com