ถึงเวลาใช้ AI สเกลธุรกิจสื่อให้เติบโต

Last updated: 3 ต.ค. 2568  |  163 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ถึงเวลาใช้ AI สเกลธุรกิจสื่อให้เติบโต


ถึงเวลาใช้ AI สเกลธุรกิจสื่อให้เติบโต

  วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ผู้ร่วมก่อตั้ง ImpactMind AI


"การนำเครื่องมือ AI มาใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร ประหยัดเวลา และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจ เพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในอนาคต" วิสัยทัศน์ด้าน AI ของ วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ผู้ร่วมก่อตั้ง ImpactMind AI และ Insiderly.ai ที่ให้คำปรึกษาด้านการนำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในธุรกิจ มีประสบการณ์ให้คำปรึกษาแก่บริษัทชั้นนำหลายแห่ง"

ด้วยประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติจริง วรวิสุทธิ์สามารถช่วยผู้นำองค์กรในการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน อุตสาหกรรมสื่อก็เช่นเดียวกัน การนำ AI มาใช้จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

คนที่จะรอดต้องใช้ AI เป็นและใช้เก่ง

วรวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ AI พัฒนาเร็วมาก ปีที่แล้วยังเป็นแค่แชทบอต หรือผู้ช่วยเสมือน (Virtual assistant) แต่ปัจจุบันเป็น AI Agentic Workflows ที่ถูกออกแบบให้สามารถเลียนแบบกระบวนการตัดสินใจ และการจัดการงานแบบมนุษย์ได้ แก้ปัญหาที่ซับซ้อนในองค์กรโดยอัตโนมัติ อิสระ โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ ทุกวันนี้ AI สามารถทำงานแทนคนได้ 100% ในบางตำแหน่ง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ฉลาดขึ้น รวมทั้งมีระบบตรวจสอบความถูก-ผิด กระจายไปยัง Agentic Workflows มี Agentic Marketplace บริการให้เช่า Agentic Workflows ซึ่งจะทำให้ตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

“เทรนด์ AI ตอนนี้ สามารถเลียนแบบความคิดของมนุษย์ได้ สั่งงานได้ มีระบบตรวจสอบความถูก-ผิด ผู้ใช้งานทั่วไปใช้ได้ องค์กรใช้ได้ และสเตปต่อไป ไม่ต้องรู้เรื่องเทคโนโลยีก็ทำได้ด้วย promt เดียว ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตลาดแรงงานกระทบหลากหลายสาขาแน่นอน อีกด้านหนึ่ง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน เดิมปลาเร็วกินปลาช้า แต่ตอนนี้องค์กรขนาดใหญ่ก็เร็วขึ้นได้ด้วย AI องค์กรขนาดเล็กก็ต้องปรับตัว” วรวิสุทธิ์ กล่าว

อุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย เริ่มมีการปรับโครงสร้างองค์กร ลดจำนวนพนักงาน ตอนนี้มีเพียง 1 คนที่สามารถใช้งาน AI ได้ สามารถทดแทนตำแหน่งงาน 20 ตำแหน่ง โดยไม่กระทบในเรื่องคุณภาพ พนักงานระดับต้น และระดับสูง มีโอกาสตกงาน ต้องอัปสกิล รีสกิลครั้งใหญ่ คนที่จะอยู่รอด คือคนที่ใช้ AI เป็น ใช้ AI เก่ง

AI เพิ่มประสิทธิภาพแข่งขันองค์กรสื่อ

สำหรับอุตสาหกรรมสื่อ การเกิดขึ้นของ Generative AI ช่วยเพิ่มความสามารถในด้านความคิดสร้างสรรค์ หลายเครื่องมือถูกนำมาใช้ ถอดเทป ตรวจปรูฟ เขียนคอนเทนต์ ด้วยความฉลาดของ AI สามารถเรียนรู้ และปรับปรุงงานเขียนจนสามารถทดแทนคนได้ระดับหนึ่ง แต่งานเขียนระดับวรรณกรรมที่มีความซับซ้อน ยังไม่สามารถทดแทนได้เต็มที่ แต่อนาคตอันใกล้ก็ไม่แน่

ในอีกด้านหนึ่ง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน แตกรูปแบบที่หลากหลาย เช่น เครื่องมือในการแปลข้อความเป็นภาพ หรือเสียง text to video หรือ text to speech เลียนเสียงได้ ในแง่คนทำคอนเทนต์จะสะดวกมากขึ้น แต่คนเสพคอนเทนต์จะรับได้มาก น้อยเพียงใด นี่ยังเป็นคำถาม

วรวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศมีการใช้ AI ในกระบวนการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำวิดีโอ คลิปสั้น ตัดต่อ และเผยแพร่ในสื่อหลักมากมาย ส่วนประเทศไทยยังใช้น้อย ปัญหาหลัก ๆ ของไทย คือการตรวจสอบข้อมูล ความถูกต้อง ที่มาที่ไป เพราะสิ่งสำคัญ คือความน่าเชื่อถือ นี่คือสิ่งที่ทำให้คนแตกต่างจาก AI การมีมาตรฐาน จรรยาบรรณ วิชาชีพยังคงเป็นสิ่งสำคัญ

ปัจจุบัน เครื่องมือในการตรวจสอบความถูกต้อง แหล่งที่มา ยังมีข้อจำกัดในด้านภาษา แต่อนาคตการพัฒนาจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายองค์กร หากมีดาต้า สามารถนำมาเทรน AI สร้างรูปแบบในการทำงานได้ ที่สำคัญ ตอนนี้ต้นทุนการเทรน AI ต่ำมาก ปีที่แล้วอาจะเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ปีนี้ลง 10 เท่า หลายองค์กรจึงเริ่มเทรน AI เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

สื่อในประเทศไทย เริ่มพัฒนาเป็นลำดับ มีผู้ประกาศ AI แต่เทคโนโลยีที่ใช้ยังเป็นเวอร์ชันเก่า ขณะที่การรายงานข่าว ผู้ชมยังต้องการอารมณ์ ความรู้สึกในการรับชม ดังนั้น ผู้ประกาศข่าวที่มีประสบการณ์สูง อย่าง ‘สรยุทธ สุทัศนจินดา’ หรือ ‘พุทธ’ พุทธอภิวรรณ ยังไม่มีใครมาทดแทนได้ นอกจากนี้ ผู้ชมบางส่วนยังมีมุมมอง หรือทัศนคติที่ว่างานที่สร้างสรรค์โดย AI มีคุณภาพต่ำ อย่างไรก็ดี AI ช่วยทำให้งานสร้างสรรค์ทำได้สนุกขึ้น และมีปริมาณที่มากขึ้น ช่วยเรื่องการขยายธุรกิจได้ โดยเฉพาะในรูปแบบ Multiplatform

“คนที่จะอยู่รอด คือตัวจริง คนยังแสวงหาออริจินอล คอนเทนต์ AI ไม่สามารถเล่าข่าวได้สนุกเท่ากับสรยุทธ หรือเล่าประวัติศาสตร์ได้น่าฟังเท่าเฮียวิทย์ แต่พอมี AI เข้ามา คนเหล่านี้ สามารถนำ AI มาช่วยให้มีคอนเทนต์ได้มากขึ้น ช่วยลดต้นทุน สร้างได้หลากหลายภาษา ทำให้คอนเทนต์ก้าวไปสู่ระดับสากลได้” วรวิสุทธิ์ กล่าว

 

AI ขยายฐานผู้ชม เพิ่มความแม่นยำ

ในแง่ผู้ชม การเข้ามาของ AI ที่นำด้วยระบบอัลกอริทึม ช่วยเลือกสรรรายการที่ตรงกับความต้องการของผู้ชมมากขึ้น หรืออีกด้านหนึ่ง AI ช่วยให้การทำนายคอนเทนต์ที่ผู้ชมต้องการได้แม่นยำขึ้น จะเห็นได้ว่าคอนเทนต์ TikTok บางคลิปมีผู้ชมหลักล้านด้วยระบบอัลกอริทึมช่วยขยายฐานผู้ชมได้ในปริมาณมาก ส่งผลให้สื่อหลักต้องปรับตัว เพราะคนหันไปดูสื่อออนไลน์ และผู้โฆษณาเน้นวัดผลจากยอดคนดูเป็นหลัก

“สื่อหลักอย่างทีวี ต้องมองเป็นหนึ่งช่องทาง สื่อเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและกาลเวลา สิ่งสำคัญ คือคอนเทนต์ และสตอรี่ เทลลิ่ง เช้าเปิดทีวีมามีการเล่าข่าว ข่าวเดียวกัน แต่สิ่งที่คนดู คือคอมมูนิเคชัน สกิล คนเล่าเรื่องที่สนุก ยังคงอยู่ แต่จะไปอยู่ในช่องทางไหน ต้องเรียนรู้วิธีการที่จะอยู่ ที่ผ่านมา เราแย่งกันเป็นช่องเลขเดียว ตอนนี้วันนี้เลือกจากอะไร อัลกอริทึมเป็นผู้เลือกให้ หลักคิดแตกต่างกัน สกิลการเล่าเรื่อง การถ่ายวิดีโอ ช่างภาพ ทุกวันนี้ ผู้ชมอาจจะเก่งกว่า ต้องเปลี่ยนวิธีคิด เอาแนวคิดคนรุ่นใหม่มาใช้”

วรวิสุทธิ์ กล่าวว่า หลายคนที่ทำสื่อ เติบโตด้วยมาตรฐานสูง แต่แพ้ในเรื่องของเวลา การทำยูทูบ ออกทุกช่องทาง ยิ่งออกบ่อย อัลกอริทึมจะช่วยผลักดันให้เข้าถึงผู้ชมมากยิ่งขึ้น ผู้ประกาศข่าว นักข่าว สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ ต้องทำให้เป็นระบบ จะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับช่องได้มากขึ้น เช่นเดียวกับการโฆษณา สามารถใช้ AI สร้างโฆษณา ยิงโฆษณาได้ ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น AI ช่วยทำให้โปรดักชันส์เร็วขึ้น จะหาเงินได้มากหรือน้อย คุณภาพของคอนเทนต์ ยอดผู้ชม จะเป็นตัวกำหนด

“ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นมากมายในโลก มีเรื่องไม่คาดคิด คาดเดาไม่ได้เกิดขึ้น เราต้องอยู่รอดให้ได้ ต้องปรับตัวให้ทัน ถ้าปรับตัวไม่ทันก็รอดยาก แต่นิสัยคนไทย เราเกิดมาในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เราแข่งขันไม่เป็น อย่างจีน ต้องดิ้นรน ทำให้เขาสามารถแข่งขันได้ เปิดให้มีการแข่งขัน อย่างเมืองเมืองหนึ่ง เปิดให้มีการพัฒนาแอปเป็น 100 แอป มีการต่อสู้ เมื่อคุณเป็นนักสู้ ไม่ต้องกลัวว่าจะแข่งกับใคร ต้องแก้ที่มายด์เซท ต้องมองโลกกว้าง วันนี้มี AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ ตกงานวันนี้คุณก็ใช้ได้เลย”

วันนี้เราต้องพึ่งตัวเอง AI ทำให้คนที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ สื่อสารได้ เขียนภาษาอังกฤษได้ ทำสคริปต์ได้ ทำให้เราเป็นหนึ่งในพลเมืองของโลก ต้องมีแนวคิดแบบสากล มองหาโอกาส และตลาดที่กว้างขึ้น

“คนในอุตสาหกรรมสื่อ ต้องเริ่มใช้ AI ได้แล้ว เพราะคนนอกวงการเริ่มมาแย่งงานคุณแล้ว ต้องมองบียอนด์ไปมากกว่าทีวี หรือไม่ทีวี ตำแหน่ง หน้าที่ เราเป็นสตอรี่ เทลลิ่ง ที่มีประสบการณ์ความรู้ ที่ AI ไม่สามารถมาแทนที่ได้ แต่เราใช้เอไอเพื่อขยายโอกาสได้มากขึ้น” วรวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้