ทัพผู้นำอุตสาหกรรมบันเทิง ตบเท้าขอบคุณ นายกฯ หลัง ครม. ไฟเขียว Cash Rebate

ทัพผู้นำอุตสาหกรรมบันเทิง ตบเท้าขอบคุณ นายกฯ หลัง ครม. ไฟเขียว “Cash Rebate” กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมยื่นข้อเสนอใหม่ ปั้นไทยสู่ “Hub Content” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์


16 ธันวาคม 2568 – ทำเนียบรัฐบาล สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) โดย คุณสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมฯ สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ โดย คุณเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์ฯ, คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ และ คุณเนตรพนิต โพธารากุล สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โดย คุณธนกร ปุลิเวคินทร์ ประธานสมาพันธ์ฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัทฯ และ คุณบุษบา ดาวเรือง บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด โดย คุณจินา โอสถศิลป์ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) โดย คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ เดินทางเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อแสดงความขอบคุณต่อภาครัฐ ในการเดินหน้า “มาตรการ Cash Rebate” ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทย ละคร ซีรีส์ และมิวสิกวิดีโอในประเทศ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ละคร ซีรีส์ และมิวสิกวิดีโอไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล


“Cash Rebate” ความหวังใหม่คนทำละคร-ซีรีส์ จากการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการมาตรการส่งเสริมฯ (อ้างอิง: Infoquest) ถือเป็นการปลดล็อกครั้งสำคัญให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทย โดยมีสาระสำคัญที่ตอบโจทย์ผู้ผลิตละครและซีรีส์โดยตรง ดังนี้:


• สิทธิประโยชน์หลัก: รัฐบาลสนับสนุนเงินคืน (Cash Rebate) 15% ของค่าใช้จ่ายในการผลิต สำหรับกองถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ไทย ที่มีการลงทุนในประเทศตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป
• สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม (Add-on): สามารถขอคืนเงินเพิ่มได้สูงสุดรวม 30% หากเข้าเงื่อนไข:
• +5% หากนำเสนอเนื้อหา (Theme) ส่งเสริมวัฒนธรรมตามที่กำหนด
• +2.5% ถึง +5% ตามขนาดทุนสร้าง (40-50 ล้านบาท หรือมากกว่า 50 ล้านบาท)
• +5% หากมีการส่งออกไปฉายต่างประเทศ หรือลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ฉายในต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ)
เสียงสะท้อนจาก “ผู้ผลิต” ถึงวิกฤตและทางออก ในโอกาสเข้าพบนายกรัฐมนตรี ตัวแทนผู้ผลิตละครและซีรีส์ได้นำเสนอข้อมูลจริงจากเอกสารข้อเสนอฯ ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต หน้าจอทีวีเต็มไปด้วย “ละครรีรัน” ผู้จัดละครหลายรายต้องปิดตัวลง ส่งผลให้บุคลากรคุณภาพ (Talent) ทั้งคนเขียนบท ผู้กำกับ และทีมงานเบื้องหลัง สมองไหลไปรับจ้างผลิตให้กับแพลตฟอร์มต่างชาติ


การมีมาตรการ Cash Rebate นี้ จึงเปรียบเสมือนการเติมเชื้อเพลิงให้ “เครื่องจักรบันเทิง” กลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็น “บริษัทโฆษณาของประเทศ” ที่ทรงพลังที่สุด ในการสอดแทรกสินค้า อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวไทย ผ่านคอนเทนต์ละครและซีรีส์ ไปสู่สายตาชาวโลก
การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือกันใช้อุตสาหกรรมบันเทิงเป็นกลไกเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างรายได้ สร้างงาน และนำพาวัฒนธรรมไทยไปสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน