นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมฯนำทีมคณะทำงานฯ ระดมความคิดเห็น

นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) นำทีมคณะทำงานฯ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี,นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ, นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์, นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย, นายเดียว วรตั้งตระกูล, นางสุจรรยา วิลเลกัส, และตัวแทนสถานีต่างๆ เข้าร่วมระดมความคิดเห็น การประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อเตรียมการรองรับก่อนใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลหมดอายุในปี 2572 และ (ร่าง) แผนที่นำทาง (Roadmap) กิจการโทรทัศน์และการแพร่ภาพและเสียงของประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 8.30-14.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเซ็นจูรี พาร์ค กรุงเพมหาคร โดยมีศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต เป็นประธานฯ พร้อมด้วยนายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด รักษาการรองเลขาธิการ และนางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขาธิการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกสทช. ซึ่งมีประเด็นสำคัญใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย

การกำกับดูแล
ในเรื่องการจัดสรรคลื่นความถี่, การใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz สำหรับกิจการโทรทัศน์, การพัฒนาแนวทางการกำกับดูแลบริการแพร่ภาพแพร่เสียงผ่าน Streaming Platform (ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและคุ้มครองผู้บริโภค, การสร้างการกำกับดูแลที่ยืนหยุ่น, Must Carry, โครงข่าย (MUX)

การส่งเสริมการประกอบกิจการ
การส่งเสริมการผลิตเนื้อหารายการที่เป็นประโยชน์ การประเมินคุณภาพเนื้อหารายการ การกำหนดสัดส่วนเนื้อหาที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทย/เนื้อหาท้องถิ่น (Local Content Quota), การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง, เทคโนโลยีและการเพิ่มช่องทางในการรับชม การให้มี National Streaming Platform

การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการคุ้มครองผู้บริโภค
การพัฒนาความรู้และทักษะของผู้บริโภคในการใช้ประโยชน์จากกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์และสื่อสารสนเทศและสื่อดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน การส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ทางดิจิทัลได้อย่างหลากหลาย เท่าเทียม และรู้ทัน การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของคนพิการ และคนด้อยโอกาส การทบทวนและปรับปรุงแก้ไขประกาศหลักเกณฑ์ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง การพัฒนากลไกการคุ้มครองผู้บริโภคและการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการแก้ไขปัญาที่เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคฯ

ซึ่งทางสำนักงาน กสทช. ยังคงเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ สามารถส่งการแสดงความคิดเห็นจนถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นี้ และนำไปสู่การการดำเนินการในลำดับต่อไป